แอป Clubhouse โซเชียลแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้เพียงแค่เสียงในการสื่อสาร

ขึ้นชื่อว่า Elon Musk แล้ว เมื่อเค้ากล่าวถึงเรื่องอะไรขึ้นมาก็ตาม มักจะเป็นประเด็นในกระแสสังคมออนไลน์ไปเสียหมด เช่นกรณีการทวีตบนทวิตเตอร์ส่วนตัวเกี่ยวกับหุ้นของ GameStop ในช่วงที่ผ่านมา ก็ทำให้กระแสการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวถูกกล่าวถึงในวงกว้าง

ล่าสุดเค้าได้ให้สัมภาษณ์เรื่องราวของการตั้งรกรากบนดาวอังคารผ่านแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Clubhouse ซึ่งนั่นก็เป็นประเด็นที่ถูกยกเข้ามาพูดถึงอีกครั้งในสังคมออนไลน์ว่า แอปที่ชื่อ Clubhouse นี่คือแอปอะไรกัน ?

อะไรคือแอป Clubhouse?

Clubhouse เป็นโซเชียลแพลตฟอร์มในรูปแบบที่ใช้เสียงในการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญ (drop-in audio conversations) การทำงานที่ทำให้ทุกคนนึกภาพตามง่ายๆ คือคุณกำลังฟังเสียงการสนทนาของคนสองคนแบบสดๆ ผ่านโทรศัพท์โดยตรง ซึ่งนี่ไม่ใช่การแอบฟังนะครับ แต่เป็นการตั้งใจจะฟังเค้าคุยกันจริงๆ มันเหมือนกับที่เราฟังพอดแคสต์ แต่นี่คือพอดแคสต์ในเวอร์ชันไลฟ์ หรือถ้าพูดแบบง่ายๆ คือระบบสัมมนาออนไลน์ผ่านเสียงนั่นเอง

สำหรับการใช้งาน Clubhouse ตอนนี้ ต้องบอกว่ายังไม่เปิดให้บริการกับทุกคน หากจะใช้งานต้องมีผู้ใช้ Cloubhouse ในตอนนี้เชิญเราเข้าใช้งานได้ทางเดียว และคนที่เชิญเองก็มีสิทธิเชิญสมาชิกใหม่เข้ามาได้เพียง 2 ครั้ง นั่นทำให้ Clubhouse ถูกใช้งานในวงที่จำกัดมากๆ และที่สำคัญอีกข้อคือ มันยังเปิดใช้เพียง iOS เท่านั้น ผู้ใช้ Android ก็คงต้องรอกันไปก่อน

วิธีการใช้งาน Clubhouse

เมื่อเข้าใช้งานครั้งแรก เราจะพบกับจำนวนห้องสนทนามากมายที่สร้างขึ้นภายในแอพมากมายและมันมาจากทั่วทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นเราสามารถเลือกห้องที่อยากจะเข้าไปฟังได้ทันที หรือหากมีหัวข้อหรือประเด็นที่อยากพูด ก็สร้างห้องสนทนาขึ้นมาเองได้เช่นกัน

ในห้องสนทนาจะมีสิทธิ์ 3 ขั้นได้แก่ผู้ดูแล(เจ้าของห้อง), ผู้บรรยายและผู้ฟัง เมื่อเข้าสู่ห้องสนทนา ระบบไมโครโฟนและลำโพงของมือถือจะทำงานทันที หากเราเป็นเจ้าของห้องและมีผู้เข้าฟังเข้ามา ก็สามารถเล่าเรื่องที่อยากจะเล่าผ่านเสียงได้ทันที หรือคุณอาจจะมีลูกคู่ที่จะมาช่วยกันเล่าเรื่องราว ก็ทำได้เปิดสิทธิ์ให้คนนั้นได้พูดในห้องสนทนา

ในทางกลับกัน ถ้าคุณเป็นผู้ฟังที่ดีมากกว่าผู้พูด ก็สามารถเลือกเข้าห้องสนทนาที่สนใจได้ทันทีและจะออกตอนไหนก็ได้ ซึ่งหากฟังไปซักพักแล้วอยากจะเสริมเนื้อหาหรือเจ้าของห้องเปิดโอกาสให้คนในห้องมีส่วนร่วม เราสามารถกดปุ่มยกมือเพื่อบอกเจ้าของห้องว่าเราต้องการพูด หากเจ้าของห้องให้สิทธิ์ เราก็สามารถสื่อสารในห้องได้ต่อเนื่อง

ที่สำคัญที่สุด แอปนี้จะไม่มีการบันทึกเสียงสนทนาภายในเซิฟเวอร์ของแพลตฟอร์ม ทำให้คนที่เข้ามาทีหลังไม่สามารถย้อนกลับไปฟังตอนแรก และผู้ใช้มั่นใจได้ว่าเสียงสนทนาจะจบลงทันทีเมื่อห้องสนทนาได้ถูกปิดลง (แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้คนฟังใช้แอปบันทึกเสียงในเครื่องทำงานได้อยู่ อันนั้นถือเป็นข้อควรระวังในการใช้งาน)

ทำไม Clubhouse เป็นที่น่าสนใจตอนนี้

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเซเลปอย่าง Elon Musk ยังใช้งาน เซเลปแถวหน้าของอเมริกาก็เริ่มใช้กันมากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Oprah, Kevin Hart, Drake, Chris Rock, หรือ Ashton Kutcher เป็นต้น ดังนั้นแอพนี้จึงทำให้เราได้ใกล้ชิดกับผู้มีชื่อเสียงมากขึ้นผ่านทางเสียงของเค้า

และความพิเศษอีกอย่างคือห้องสนทนาในแอปนี้สามารถเปิดเป็นสาธารณะหรือเปิดเป็นห้องสนทนาส่วนตัวก็ได้ โดยจุดประสงค์ของห้องสนทนาส่วนตัวมีเงื่อนไขคือเจ้าของห้องสนทนาจะต้องเชิญเข้าห้องเท่านั้นและไม่ปรากฎในรายชื่อห้องสาธารณะ นี่อาจจะเป็นโอกาสของนักบรรยายหรือผู้นำความคิดใช้เป็นพื้นที่ในการผลิตคอนเทนต์แบบ Exclusive ออกมาและอนาคตของสื่อประเภทเสียงก็อาจจะได้รับความนิยมมากขึ้นตามมาก็เป็นได้

ที่มา: PCMag, Mashable